10 ข้อห้าม "คุณแม่มือใหม่" ต้องรู้ ! ?สวัสดีค่ะสาว ๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Simplee Organic นะคะ ? สำหรับสาว ๆ ที่อ่านบทความนี้อาจกำลังเป็นคุณแม่มือใหม่หรือว่าในครอบครัวกำลังจะมีเจ้าตัวเล็กใช่ไหมล่ะคะ ? วันนี้ Simplee Organic จะพาสาว ๆ ไปเตรียมความพร้อม และข้อควรรู้สำหรับ 10 พฤติกรรม ที่คุณแม่มือใหม่ต้องปรับเปลี่ยน ! เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และเจ้าตัวน้อยด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย ?
สามารถเลือกอ่านเช็คลิสต์ที่สนใจได้เลย
10 พฤติกรรมที่ "คุณแม่มือใหม่" ต้องเปลี่ยน !
เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ร่างกายก็เปลี่ยนทันที ! ยิ่งหากสาว ๆ ที่มีปัญหาสุขภาพ หรือ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มีโรคประจำตัว ยิ่งต้องอ่านเลยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในท้องนะคะ ^^

ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกฮอลล์
เป็นพฤติกรรมที่คุณแม่ห้ามทำโดยเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะหากได้รับแอลกอฮอลล์หรือสารอันตรายจากบุหรี่ จะทำให้ทารกในครรภ์เติบโตช้า มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักน้อย และร้ายแรงที่สุดอาจมีโอกาสแท้งได้ เนื่องจากสารอันตรายในบุหรี่และแอลกอฮอลล์มีผลโดยตรงต่อสมองของทารกค่ะ ทางที่ดีไม่ควรทานเลย หรือ หากไม่ได้สูบบุหรี่อยู่แล้วแต่ก็ควรหลีกเลี่ยงควันจากบุหรี่ด้วยเช่นกันนะคะ ^^
ห้ามเครียด หรือ มีอารมณ์โกรธมาเกินไป
คุณแม่หากเริ่มมีน้องแล้วละก็ พฤติกรรมด้านอารมณ์และจิตใจอีกข้อเลยก็คือ "ห้ามเครียดหรือกังวลจนเกินไป" เพราะร่างกายของคุณแม่จะหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ออกมามากขึ้น ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกและรกเกิดการหดตัว ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังทารกในครรภ์ลดน้อยลงและอาจไม่เพียงพอได้นั่นเองค่ะ
ห้ามดื่มนมเกินวันละ 1 แก้ว
การดื่มนมดีสุขภาพไม่ใช่เหรอ ? แล้วทำไมคุณแม่ต้องห้ามดื่มนมวันละ 1 แก้วด้วยนะ ? เหตุผลเพราะว่า หากดื่มนมมากเกินความจำเป็น จะทำให้ทารกมีความเสี่ยงต่อการแพ้ได้ง่าย เช่น แพ้โปรตีนในนมวัว เป็นต้น แต่หากคุณแม่อยากทานแคลเซียมเพิ่ม แนะนำให้ทานอาหารเสริมแคลเซียมชนิดอื่นแทน เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว งาดำ อัลมอนด์ เป็นต้นค่ะ

หากจะทานยาตัวใดต้องปรึกษาเภสัชกรก่อนเท่านั้น
หากเกิดอาการใด ๆ หรือ โรคใด ๆ คุณแม่มือใหม่ไม่ควรซื้อยาจากร้านขายยาแล้วทา หรือว่า ทานเองโดยไม่ได้ปรึกษาเภสัชกร แพทย์ นะคะ เพราะในยาบางตัวมีผลต่อทารกในครรภ์ทำหใ้มีความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของทารกได้ ถึงแม้ยาบางตัวจะแค่เป็นยาทาภายใน ก็ควรที่จะปรึกษาเภสัชกรเช่นกันนะคะ ^^
ห้ามออกกำลังกายรุนแรง
คุณแม่สายออกกำลังกายต้องอ่าน !! หากก่อนตั้งครรภ์ออกกำลังกายเป็นประจำ เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ช่วงนี้อาจจะต้องเบาลงก่อนนะคะ ^^ โดยควรเลือกการออกกำลังกายที่เบา ๆ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ เดินเหยาะ ๆ
ควรพักดื่มน้ำทุก ๆ 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อนออก และเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป ที่สำคัญคุณแม่อย่าออกกำลังจนเหนื่อยหอบมากนัก จะทำให้ลูกในครรภ์ขาดออกซิเจนจนอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตได้นั่งเองค่ะ

ห้ามยืนหรือนอนเป็นเวลานาน
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 20 สัปดาห์ขึ้นไป ไม่ควรเดินหรือยืนเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้ขาและเท้าบวมมากขึ้น อาจเกิดเส้นเลือดขอดที่ขา ทำให้ปวดหลังง่าย แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้คุณแม่ก็ไม่ควรนอนนานด้วยเช่นกัน เพราะน้ำหนักครรภ์จะไปกดทับกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง อีกทั้งน้ำหนักครรภ์อาจไปกดทับเส้นเลือดดำ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ร่างกายเกิดอาการบวม รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย และอาจทำให้หน้ามืดได้
ดังนั้นคุณแม่จึงควรเปลี่ยนอิริยาบถทุก 1-2 ชั่วโมง พยายามเปลี่ยนท่านั่งหรือยืดเส้นยืดสายบ่อย ๆ เพื่อช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น

ห้ามลดน้ำหนัก , อดอาหาร
หากคุณแม่ตั้งครรภ์ลดน้ำหนัก หรือ อดอาหารขณะที่ท้อง จะทำให้ลูกในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายพัฒนาไม่สมบูรณ์เต็มที่ แถมยังเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย ทางที่ดีคุณแม่ควรบำรุงตัวเองให้มาก ๆ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงบำรุงด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการสร้างอวัยวะต่าง ๆ ที่สำคัญของร่างกาย
และตามธรรมชาติเมื่อคุณแม่คลอดแล้ว น้ำหนักจะค่อย ๆ ลดลงและหากออกกำลังกายฟิตหุ่น น้ำหนักและรูปร่างก็จะกลับมาเท่าเดิมได้อยู่แล้วค่ะ ^^
ห้ามอบไอน้ำ ซาวน่า
การอบไอน้ำนั้นอาจทำให้ลูกในครรภ์แท้งได้ เพราะ ความร้อนจากไอน้ำทำให้ร่างกายของคุณแม่ขาดน้ำและเกลือแร่ที่จำเป็น ส่งผลให้เลือดข้นจนทำให้เส้นเลือดอุดตัน เลือดจึงไปเลี้ยงทารกน้อยลง ทำให้ทารกเจริญเติบโตไม่เต็มที่และอาจถึงขึ้นแท้งได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงก่อนนะคะ ?

ห้ามทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลมากเกินไป
ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่จะต้องไปเข้าพบแพทย์เพื่อติดตามสุขภาพของลูกอยู่เสมอ และในการตรวจแต่บละครั้ง จะมีการเจาะเลือดตรวจน้ำตาล เจาะไขมัน ซึ่งหากเมื่อค่าของน้ำตาลและไขมันเกิน อาจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น อาการครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพคุณแม่และลูกเลยค่ะ ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน เค็ม หวานจัดไปก่อนนะคะ เพื่อลดอาการแทรกซ้อนที่อันตรายได้

งดใส่รองเท้าพื้นแข็งมากเกินไป
หากคุณแม่ใส่ทองเท้าที่ส้นแข็ง หรือ รองเท้าส้นสูงในช่วงที่อายุครรภ์เริ่มเยอะ อาจไม่ดีแน่นอน เพราะ เมื่อคุณแม่ใส่รองเท้าพื้นแข็ง ยิ่งได้รับแรงกระแทกเยอะ อาจะส่งผลทำให้เกิดอาการเท้าบวม ขาบวมได้ ทำให้เกิดอาการปวดทรมาณมาก ๆ ค่ะ และอาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูงได้
งดทำฟันในช่วงนี้ !!
ทำไมถึงต้องงดทำฟันด้วยนะ เกี่ยวข้องอะไรกับการตั้งครรภ์ ? จริง ๆ แล้วไม่ถึงกับห้ามนะคะ แต่หากกำลังตั้งครรภ์ การทำฟันอาจมีอุปสรรคดังนี้ค่ะ
- เกิดอาการคลื่นไส้ระหว่างทำฟัน อาจทำให้ทำฟันต่อได้ยาก
- การทำฟัน หากเป็นการถอนฟัน / ผ่าฟันคุด อาจต้องปรึกษาแพทย์เพราะในการถอนฟันจำเป็นต้องใช้ยาชาซึ่งไม่ดีต่อทารกแน่นอน
- การนอนบนเตียงทำฟัน ต้องนอนราบ ไม่มีหมอนสูง อาจทำให้คุณแม่รู้สึกหายใจไม่ออก เพราะท้องเริ่มใหญ่ อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการทำฟันได้เลย

10 ข้อห้ามที่ "คุณแม่มือใหม่" ต้องรู้ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณแม่มือใหม่ต้องระวังมาเป็นพิเศษ เพราะเมื่อร่างกายของคุณแม่มีเจ้าตัวน้อยแล้ว ย่อมเกิดอาการหรือความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อนได้ง่ายมากกว่าปกตินะคะ อย่าลืมทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำผลไม้ (ที่น้ำตาลน้อย) และ ขยับร่างกายเบา ๆ ให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช
ถาม-ตอบ
คนท้องสามารถกินยาพาราเซตามอลได้โดยกินในปริมาณปกติ 1-2 เม็ด ห่างกัน 6 ชั่วโมง และห้ามกินติดต่อกันเกิน 5 วัน หากอาการปวดยังไม่หายแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ ห้ามกินยาพาราตาเนื่องเป็นเวลานานเพราะอาจส่งผลต่อตับและอาจจะมีผลต่อทารกในครรภ์ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนกินเกิน 5 วัน
สามารถออกกำลังหายเบาๆได้ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ เดิน ควรพักดื่มน้ำทุก ๆ 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อนออก และเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป ที่สำคัญคุณแม่อย่าออกกำลังจนเหนื่อยหอบมากนัก จะทำให้ลูกในครรภ์ขาดออกซิเจนจนอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตได้นั่งเองค่ะ