ซินเหนียนไคว่เล่อ! สวัสดีวันตรุษจีนนะคะทุกคน ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนหมื่นๆปีกันนะคะ วันนี้ Simplee Organic ก็จะพามาไขความลับที่ทำให้อายุยืนถึง 256 กว่าปีแบบ หลี่ ชิงหยุน กันค่ะว่าเขากินอะไร ดูแลตัวเองยังไงบ้างให้สุขภาพแข็งแรงยาวนานถึงสองร้อยปีกันเลยทีเดียว

หลี่ ชิงหยุน หรือ Li Ching-Yuen เป็นหมอยาจีนตั้งแต่อายุ 10 ขวบและเป็นอาจารย์ด้านชี่กง หรือที่เรารู้จักกันคร่าวๆก็คือวิธีปฏิบัติเพื่อเร่ง หมุนเวียน และทำงานกับ "ชี่" หรือลมปราณภายในร่างกาย การปฏิบัติชี่กงนั้นเพื่อประโยชน์ทางรักษาสุขภาพ เพื่อฝึกจิตใจ และเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะการต่อสู้จีนค่ะ
ไม่ใช่แค่เขาที่มีอายุยืนถึง 256 ปี แต่ลูกศิษย์ของเขาเองก็อายุ 100 ปีขึ้นไปกันทั้งนั้นเลยนะคะ เพราะเขามีเคล็ดลับที่ทำให้สุขภาพดีและอายุยืนโดยจะปฎิบัติตัวตามนี้ทุกวันค่ะ “ อยู่ให้เงียบๆเหมือนหัวใจ นั่งให้เหมือนเต่า ยืนให้เหมือนนกพิราบ หลับให้เหมือนหมา”
ด้วยความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรทำให้มีสมุนไพรถึง 6 ชนิดที่เขากินทุกวันด้วยและเดี๋ยวเราจะพาไปรู้จักถึงสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละตัวกันเลยนะคะ
Table of contents
เห็ดหลินจือ

ขอบคุณภาพจาก Happy Body Formula
เห็ดหลินจือหรือที่เรียกว่า Ganoderma lucidum และ lingzhi เป็นเชื้อราที่เติบโตในสถานที่ต่างๆ ที่ร้อนและชื้นในเอเชีย หลายปีที่ผ่านมา เชื้อราชนิดนี้เป็นวัตถุดิบหลักในการแพทย์ตะวันออก
สามารถรับประทานสด ๆ ได้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่จะใช้เห็ดในรูปแบบผงหรือสารสกัดที่มีโมเลกุลเฉพาะเหล่านี้ค่ะ
สรรพคุณของเห็ดหลินจือก็มีดังนี้ค่ะ
1. เพิ่มภูมิคุ้มกัน
การศึกษาในหลอดทดลองแสดงให้เห็นว่าเห็ดหลินจือสามารถส่งผลต่อยีนในเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนั้นก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกายมากๆค่ะ
การวิจัยในผู้ป่วยมะเร็งแสดงให้เห็นว่าโมเลกุลบางชนิดที่พบในเห็ดสามารถเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติต่อสู้กับการติดเชื้อและมะเร็งในร่างกายได้ดีค่ะ

ขอบคุณภาพจาก Organixx Supplements
2. สามารถต่อสู้กับความเหนื่อยล้าและภาวะซึมเศร้าได้
นักวิจัยพบว่าความเหนื่อยล้าลดลงและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเสริม 8 สัปดาห์
การศึกษาอื่นพบว่าความเหนื่อยล้าลดลงและคุณภาพชีวิตดีขึ้นหลังจากรับประทานผงเห็ดหลินจือ 4 สัปดาห์ในกลุ่มผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านม 48 ราย
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนในการศึกษานี้ยังมีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าน้อยลงอีกด้วยค่ะ
3. สุขภาพหัวใจ
การศึกษาหนึ่งสัปดาห์จาก 26 คนพบว่าเห็ดหลินจืออาจเพิ่มคอเลสเตอรอล HDL "ดี" และลดไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
เก๋ากี้ หรือ โกจิเบอร์รี่

ขอบคุณภาพจาก WeMysticBrasil
โกจิเบอร์รี่เป็นที่รู้จักกันว่า Lycium barbarum โกจิเบอร์รี่มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย และผู้คนในเอเชียใช้ผลไม้สีสดใสนี้มานานกว่า 2,000 ปีเป็นสมุนไพรและอาหารเสริมซึ่งสรพพคุณของเขาก็มีดังนี้ค่ะ
1. สร้างระบบภูมิคุ้มกัน
โกจิเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ สารต้านอนุมูลอิสระเป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและความสามารถในการต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายและการอักเสบ
โกจิเบอร์รี่มีวิตามิน A และ C จำนวนมาก เช่นเดียวกับผลเบอร์รี่อื่นๆ รวมถึงบลูเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ วิตามิน A และ C มีความสำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคต่างๆ ตั้งแต่ไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงมะเร็ง
2. ป้องกันมะเร็ง
สารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง เช่น วิตามินซี ซีแซนทีน และแคโรทีนอยด์ มีหน้าที่ในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระชะลอการเติบโตของเนื้องอก ลดการอักเสบ และช่วยขจัดสารอันตรายออกจากร่างกาย

ขอบคุณภาพจาก Pobpod
3. ส่งเสริมสุขภาพผิว
โกจิเบอร์รี่มีเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นไฟโตเคมิคอลที่จำเป็นต่อพืช เบต้าแคโรทีนเป็นที่รู้จักสำหรับความสามารถในการส่งเสริมสุขภาพผิว
เบต้าแคโรทีนเป็นส่วนผสมที่ใช้ในครีมบำรุงผิวเพื่อปรับปรุงสุขภาพผิว, ลดการระคายเคืองผิว, จัดการผลกระทบของแสงแดด, จัดการผลกระทบของความชราค่ะ
4. รักษาระดับน้ำตาลในเลือด
โกจิเบอร์รี่อาจช่วยควบคุมการหลั่งน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด แหล่งวิจัยที่เชื่อถือได้ในปี 2015 แสดงให้เห็นว่าโกจิเบอร์รี่รักษาสมดุลของอินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือด
การศึกษาเดียวกันนี้เชื่อมโยงโกจิเบอร์รี่กับระดับ HDL ที่เพิ่มขึ้น แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 HDL เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี
5. ปรับปรุงภาวะซึมเศร้าความวิตกกังวลและการนอนหลับ
การศึกษาอื่นที่เชื่อถือได้ในสหรัฐอเมริกาโดยใช้มนุษย์ ยังพบว่าการดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่สามารถปรับปรุงพลังงาน อารมณ์ และสุขภาพทางเดินอาหารได้
กลุ่มที่ได้รับน้ำโกจิเบอร์รี่รายงานว่ามีพลังงานดีขึ้น ความสามารถในการโฟกัส สมรรถภาพทางกายดีขึ้น จิตใจแจ่มใส และความรู้สึกสงบและพึงพอใจ
6. ป้องกันความเสียหายของตับ
โกจิเบอร์รี่ถูกนำมาใช้รักษาโรคตับในการแพทย์แผนจีนสามารถช่วยในการจัดการสุขภาพตับและป้องกันความก้าวหน้าของโรคไขมันพอกตับที่เกิดจากแอลกอฮอล์
โสมป่า
โสมถูกนำมาใช้ในยาจีนโบราณมานานหลายศตวรรษเลย โสมประกอบด้วยสารประกอบสำคัญสองชนิด จินเซโนไซด์และจินโทนิน สารประกอบเหล่านี้เสริมซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพค่ะ

ขอบคุณภาพจาก The Chalkboard Mag
ถ้าให้พูดถึงเรื่องสรรพคุณของโสมเรียกได้ว่าครอบคลุมแทบจะทุกเรื่องเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราจะขอสรุปมาดังนี้นะคะ
1. สารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพที่ลดการอักเสบ
โสมมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบที่เป็นประโยชน์สารสกัดจากโสมและสารประกอบจินเซโนไซด์สามารถยับยั้งการอักเสบและเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในเซลล์
โสมแดงยังช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ
2. เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง
โสมสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง เช่น ความจำ พฤติกรรม และอารมณ์
เป็นไปได้ว่าโสมช่วยในการดูดซึมน้ำตาลในเลือดโดยเซลล์ ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเมื่อยล้าทางจิตใจได้นั่นเองค่ะ
3. สามารถปรับปรุงการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้
การวิจัยพบว่าโสมอาจเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์สำหรับการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
ดูเหมือนว่าสารประกอบในนั้นอาจป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันในหลอดเลือดและเนื้อเยื่อในองคชาต และช่วยฟื้นฟูการทำงานตามปกติได้ค่ะ

4. เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
โสมเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในผู้ที่เป็นมะเร็งและแม้กระทั่งเพิ่มผลของการฉีดวัคซีนบางชนิด เช่น ไข้หวัดใหญ่ได้
การศึกษาอื่นตรวจสอบผลของสารสกัดจากโสมแดงต่อเครื่องหมายของระบบภูมิคุ้มกันในผู้ที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารขั้นรุนแรงที่ได้รับเคมีบำบัดหลังการผ่าตัด
5. มีประโยชน์ต่อโรคมะเร็ง
Ginsenosides ในโสมจะควบคุมการอักเสบให้การป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระและรักษาสุขภาพของเซลล์ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดได้

ขอบคุณภาพจาก Emma Klee
6. ช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยล้าและเพิ่มระดับพลังงาน
โสมสามารถช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยล้าและส่งเสริมพลังงานได้ ผู้ที่ได้รับโสม Panax มีอาการเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจน้อยกว่า รวมถึงความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ลดลง เสริมสร้างการออกกำลังกายโดยลดความเสียหายจากออกซิเดชันและเพิ่มการผลิตพลังงานในเซลล์
7. สามารถลดน้ำตาลในเลือดได้
โสมจะเป็นประโยชน์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ที่เป็นเบาหวานและไม่มีโรคเบาหวาน
โสมอเมริกันและเอเชียได้รับการแสดงเพื่อปรับปรุงการทำงานของเซลล์ตับอ่อน เพิ่มการผลิตอินซูลิน และเพิ่มการดูดซึมน้ำตาลในเลือดในเนื้อเยื่อ
นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากโสมยังช่วยป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอนุมูลอิสระในเซลล์ของผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วยค่ะ
ห่อสิ่วโอว

ขอบคุณภาพจาก Health Wisdom
ห่อสิ่วโอว เป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีรสชาติออกไปทางหวานฟาด ฤทธิ์ของห่อสิ่วโอวนั้นจะอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถึงกับร้อนแต่ก็ไม่ถึงกับเย็น มักจะเอามาใช้ช่วยในเรื่องของเลือดลมและอวัยวะภายในต่าง ๆ
เรียกได้เป็นสมุนไพรเติมความเด็กเพราะใครที่ได้ทานแล้วก็จะกระฉับกระเฉง ภูมิต้านทานแข็งแรง ผมดกดำ ช่วยลดผมหงอก บำรุงเลือดให้ไหลเวียนดี และยังพ่วงไปบำรุงกระดูกและเส้นเอ็นให้แข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกก็เป็นอีกสมุนไพรที่สรรพคุณเยอะเช่นกันนะคะ ที่สำคัญหาทานได้ง่ายมากๆในบ้านเรา ที่เห็นกันบ่อยๆเลยก็จะเป็นน้ำใบบัวบก หรือหากใครที่รับกลิ่นที่แรงไม่ได้แบบแคปซูลก็มีเช่นกันค่ะ วันนี้เราก็จะรวมสรรพคุณเขามาได้ทั้งหมด 4 ใหญ่ข้อดังนี้ค่ะ

1. ช่วยเพิ่มการทำงานขององค์ความรู้
การศึกษาขนาดเล็กปี 2016 ที่น่าเชื่อถือเปรียบเทียบผลของสารสกัดจากบัวบกและกรดโฟลิกในการกระตุ้นการทำงานขององค์ความรู้หลังจากเกิดโรคหลอดเลือดสมองซึ่งช่วยเพิ่มการทำงานของสมองได้ดีค่ะ
ใบบัวบกมีความสามารถในการเพิ่มความจำและการทำงานของเส้นประสาท ซึ่งทำให้มีศักยภาพในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วยค่ะ
2. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนและลดอาการบวม
เวลาใครทำศัลยกรรมมาก็จะรีบกินใบบัวบกแก้อาการฟกช้ำกันทั้งนั้นเลยใช่มั้ยคะ เพราะมีงานวิจัยจากแหล่งที่เชื่อถือได้ในปี 2544 พบว่าใบบัวบกสามารถลดปัญหาการกักเก็บของเหลว ข้อเท้าบวม และการไหลเวียนของโลหิตได้ดีนั่นเองค่ะ

3. ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้
เนื่องจากความสามารถในการรับรู้ความสามารถในการรักษาอาการวิตกกังวล ความเครียด และภาวะซึมเศร้า จึงอาจใช้ใบบัวบกเพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับในสารสกัดหลายๆชนิดค่ะ
4. ช่วยดีท็อกซ์
บัวบกสามารถใช้เพื่อระงับผลข้างเคียงที่เป็นพิษของยาปฏิชีวนะ isoniazid Isoniazid ใช้รักษาและป้องกันวัณโรค สามารถช่วยให้ความเป็นพิษในตับและไตจะกลับมาอยู่ในระดับที่ใกล้ปกติหลังจากได้รับบัวบก
เหล้าหมัก
สายดื่มเห็นแบบนี้แล้วอาจจะยิ้มหวานเลย เพราะเหล้าหมักยาจีนจริงๆแล้วก็มีประโยชน์เหมือนกันนะคะ

ขอบคุณภาพจาก The Kitchn
เหล้าหมักก็จะมียีสที่แตกต่างจากแอลกอฮอล์ทั่วไปค่ะ แล้วก็ยังถือว่าเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอย่างนึงที่ช่วยเรื่องเลือดลมให้ไหลเวียนดี ที่เห็นกันได้บ่อยก็จะเป็นเหล้าหมักยาจีน เหล้าหมักผลไม้ค่ะ แต่ก็ควรดื่มในปริมาณที่จำกัดต่อวันนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นค่า
หากใครที่งดแอลกอฮอล์สามารถเลือกทำเป็นน้ำหมักเองที่บ้านก็ได้ค่ะ เช่น Kombucha หรือจะเป็น โซดาคราฟจากธรรมชาติด้วยคีเฟอร์ก็ได้เช่นกันค่ะ
นี่ก็เป็นหกยาจีนที่ทำให้หลี่ ชิงหยุนอายุยืนถึง 256 ปีเลยนะคะ บางสมุนไพรก็หาทานได้ง่ายๆเลย เช่น ใบบัวบก หรือสารสกัดจากเห็ดหลินจือ มาดูแลสุขภาพกันตั้งแต่ตอนนี้ เพื่ออายุที่ยืนยาวนะคะ
พบกันใหม่ในบทความหน้าสามารถติดตามข้อมูลดีๆและอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆได้เสมอที่ Simplee Organic