
Table of contents
- หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ทาครีมกันแดด
- ห้ามสูบบุหรี่
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- นอนหงาย
- ห้ามเหล่
- ทานปลาให้มากขึ้น
- ทานถั่วเหลืองให้มากขึ้น
- ดื่มโกโก้
- ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์
- อย่าล้างหน้ามากเกินไป
- ใช้กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี AHAs
- เรตินอยด์
- ทานวิตามินซี
- ทานอาหารที่มีส่วนผสมไอบีโนน
- ปัจจัยการเจริญเติบโต
- ทานอะโวคาโด
- ทานเมล็ดทับทิม
- ทานมันหวาน
1.หลีกเลี่ยงแสงแดด

ขอบคุณภาพจาก Instragram freyaricheda
แสงแดดเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของริ้วรอยเลยนะคะทั้ง UVA, UVB ที่ทำให้ผิวมีอายุมากขึ้น พยายามใช้ร่มเวลาออกไปข้างนอก หรือพยายามอยู่ภายในที่ร่มบ่อยๆนะคะ
2. ทาครีมกันแดด

ขอบคุณภาพจาก Avene
แต่หากคุณต้องออกไปกลางแดดจริงๆ จำเป็นมากๆนะคะที่จะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แนะนำให้เลือกกันแดดที่เป็น Physical sunscreen จะช่วยป้องกันแสงแดดได้มากกว่า Mineral Sunscreen นะคะ
เพราะช่วยปกป้องคุณจากมะเร็งผิวหนัง และช่วยป้องกันริ้วรอยไปพร้อมๆ กันค่ะ โดยทาปริมาณสองข้อนิ้วเสมอนะคะ
3. ห้ามสูบบุหรี่

ขอบคุณภาพจาก Behance
ควันบุหรี่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ ส่วนใหญ่โดยการปล่อยเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง คนที่สูบบุหรี่มักจะมีผิวหนังที่เหี่ยวย่นมากกว่าและบางกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 40%
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายจะผลิตคอร์ติซอลส่วนเกิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำลายเซลล์ผิว หากเราพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายจะได้ผลิตฮอร์โมนการเจริญเติบโตของมนุษย์ ซึ่งช่วยให้ผิวยังคงหนา "ยืดหยุ่น" และมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยน้อยลงได้นะคะ

ขอบคุณภาพจาก Maude
5. นอนหงาย
American Academy of Dermatology (AAD) เตือนว่าการนอนในบางท่าทุกคืนจะนำไปสู่ "เส้นการนอนหลับ รอยย่นที่ฝังอยู่ในผิวหนังและไม่หายไปเมื่อคุณตื่น
การนอนตะแคงจะเพิ่มขึ้น ริ้วรอยที่แก้มและคางในขณะที่นอนคว่ำหน้าจะทำให้คุณมีคิ้วที่ขมวด จึงมีคำแนะนำว่าให้นอนหงายเพื่อลดการเกิดริ้วรอยค่ะ
6. ห้ามเหล่

ขอบคุณภาพจาก Luana
การเคลื่อนไหวใบหน้าซ้ำๆ เช่น การหรี่ตาเวลาอ่านหนังสือ หรือพยายามเพ่ง จะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานหนักเกินไป ทำให้เกิดร่องใต้ผิวหนัง ร่องนี้จะกลายเป็นรอยย่นในที่สุด
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ: สวมแว่นกันแดด จะช่วยปกป้องผิวรอบดวงตาจากการทำลายของแสงแดด และป้องกันคุณจากการหรี่ตา
7. ทานปลาให้มากขึ้น

ขอบคุณภาพจาก Nanma
เน้นกินปลา โดยเฉพาะปลาแซลมอน ร่วมกับปลาน้ำเย็นอื่นๆ เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนังชั้นยอด แต่ยังเป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นที่รู้จักกันในชื่อโอเมก้า3 อีกด้วย
Perricone บอก WebMD ว่ากรดไขมันจำเป็นช่วยบำรุงผิวและทำให้มันอวบอิ่มและอ่อนเยาว์ช่วยลดริ้วรอยค่ะ
8. ทานถั่วเหลืองมากขึ้น

ขอบคุณภาพจาก Aimee Thai
ถั่วเหลืองจะช่วยปกป้องหรือรักษาความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดบางส่วนได้ ช่วยปรับปรุงโครงสร้างและความกระชับของผิว จะทานในรูปแบบน้ำเต้าหู้ หรือเต้าหู้ทอดก็ได้เช่นกันค่ะ
9. ดื่มโกโก้

10. ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น

ขอบคุณภาพจาก Sabrina Dinner
กุญแจสำคัญคือ Kraus คือสารประกอบต้านอนุมูลอิสระของพวกมัน สารประกอบเหล่านี้ต่อสู้กับความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ (โมเลกุลที่ไม่เสถียรซึ่งสามารถทำลายเซลล์ได้) ซึ่งจะช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยและเปล่งปลั่งมากขึ้น และป้องกันผลกระทบบางอย่างของการเกิดริ้วรอยแห่งแสง
11. ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์

ขอบคุณภาพจาก Beauty +
ผู้หญิงมักกังวลกับผลิตภัณฑ์ต่อต้านวัย พวกเขามักจะมองข้ามพลังของมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมดา ผิวที่ชุ่มชื้นก็ดูดีขึ้น ดังนั้นเส้นและรอยย่นจึงไม่ค่อยเด่นชัดนักหากใครที่ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัยค่ะ
12. อย่าล้างหน้ามากเกินไป

ขอบคุณภาพจาก Kylie Skin
แพทย์ผิวหนังจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมริแลนด์กล่าวว่าน้ำประปาจะลอกผิวของน้ำมันกั้นธรรมชาติและความชื้นที่ป้องกันริ้วรอย ล้างออกบ่อยเกินไปและคุณล้างการป้องกัน นอกจากนี้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดแทน
เราสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ได้เพื่อลดการแห้งตึงของผิวหลังากล้างหน้านะคะ
13. ใช้กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHAs)

ขอบคุณภาพจาก BuzzFeed
กรดผลไม้ธรรมชาติเหล่านี้ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วชั้นบนออกไป ลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่าในความเข้มข้นที่สูงขึ้น AHA จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ควรใช้สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้งเพื่อไม่ให้ผิวบอบบางเกินไปค่ะ
14. เรตินอยด์

ขอบคุณภาพจาก Well.ca
การรักษาเฉพาะที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสำหรับริ้วรอยคือ tretinoin หรือที่รู้จักในเชิงพาณิชย์ว่า Retin A. ครีมตามใบสั่งแพทย์นี้เหล่านี้ช่วยลดริ้วรอยและริ้วรอยขนาดใหญ่และซ่อมแซมความเสียหายจากแสงแดด
แต่เรตินอลเป็นรูปแบบธรรมชาติของวิตามินเอที่พบในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์มากมาย จากการศึกษาพบว่าในสูตรที่มีความเสถียร ในความเข้มข้นสูง อาจมีประสิทธิภาพเท่ากับเรตินเอ โดยไม่มีผลข้างเคียง เช่น ผิวหนังไหม้และแพ้ง่าย
15. ทานวิตามินซี

การศึกษาวิตามินซีเฉพาะที่ที่มหาวิทยาลัยทูเลน พบว่าสามารถเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ป้องกันความเสียหายจากรังสี UVA และ UVB แก้ไขปัญหาการสร้างเม็ดสี และปรับปรุงสภาพผิวอักเสบ
กุญแจสำคัญคือชนิดของวิตามินซีที่ใช้ จนถึงปัจจุบัน งานวิจัยส่วนใหญ่ชี้ว่ากรดแอล-แอสคอร์บิกมีประสิทธิภาพสูงสุดในการบรรเทาริ้วรอย เราสามาถหาทานได้ง่ายๆในผลไม้ทั่วไปเลย
16. ทานอาหารที่มีส่วนผสมไอบีโนน

ขอบคุณภาพจาก Anastasia
ไอดีบีโนนเป็นลูกพี่ลูกน้องทางเคมีนี้กับสารอาหารโคเอ็นไซม์ Q10 (CoQ10) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถหาทานได้ง่ายจากเครื่องในสัตว์และเนื้อสัตว์ต่างๆค่ะ รวมไปถึงปลาที่มีไขมันเช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน
ในการศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้ในวารสาร Journal of Dermatology แพทย์พบว่าใช้เฉพาะที่ 6 สัปดาห์ มีความหยาบกร้านและความแห้งกร้านลดลง 26% ความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น 37% เส้นและริ้วรอยลดลง 29% และการปรับปรุงโดยรวม 33% ในผิวที่โดนแดดเผา การศึกษาอื่นพบผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน
17. ปัจจัยการเจริญเติบโต

ขอบคุณภาพจาก francieli
ส่วนหนึ่งของการตอบสนองการรักษาบาดแผลตามธรรมชาติของร่างกาย สารเหล่านี้เมื่อทาเฉพาะที่ อาจลดความเสียหายจากแสงแดด และลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น ในขณะที่ช่วยฟื้นฟูการผลิตคอลลาเจนนั่นเองค่ะ
18. ทานอะโวคาโด

ขอบคุณภาพจาก Rox
อะโวคาโดมีกรดไขมันที่ต่อสู้กับการอักเสบสูงซึ่งช่วยให้ผิวเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม ยังมีสารอาหารที่จำเป็นมากมายที่อาจป้องกันผลกระทบด้านลบของการแก่ชราได้ รวมไปถึง วิตามิน K, C, E และ A, วิตามินบีและโพแทสเซียมค่ะ
ปริมาณวิตามินเอสูงในอะโวคาโดสามารถช่วยให้เราผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ปล่อยให้เรามีผิวสวยเปล่งปลั่ง ปริมาณแคโรทีนอยด์อาจช่วยในการปิดกั้นสารพิษและความเสียหายจากแสงแดดและยังช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง
สามารถดูไอเดียเมนูจากอะโวคาโดได้ที่นี่เลย คลิกที่นี่
19. ทานเมล็ดทับทิม

ขอบคุณภาพจาก lulu
เรามักจะเห็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากทับทิมช่วยเรื่องริ้วรอยต่างเสมอ เพราะมีวิตามินซีสูงและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพหลากหลาย ทับทิมสามารถปกป้องร่างกายของเราจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ และลดระดับการอักเสบในระบบของเรา
ผลไม้เพื่อสุขภาพเหล่านี้ยังมีสารประกอบที่เรียกว่า punicalagins ซึ่งช่วยรักษาคอลลาเจนในผิวหนัง ชะลอสัญญาณแห่งวัยได้ด้วยค่ะ
20. ทานมันหวาน

ขอบคุณภาพจาก The Bojon Gourmet
สีส้มของมันฝรั่งหวานมาจากสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าเบต้าแคโรทีน ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ แหล่งวิตามินเออาจช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว และในที่สุดส่งผลให้ผิวนุ่ม และดูอ่อนเยาว์
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของวิตามิน C และ E ที่ดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายและทำให้ผิวของเราเปล่งปลั่งได้ดีด้วยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ มีหลายวิธีที่น่าสนใจแล้วก็ทำตามได้ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ ทุกคนสามารถเลือกวิธีที่ตนเองสะดวกแล้วทำให้เป็น routine เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้เลยนะคะ
ไว้พบกันใหม่ ในบทความหน้า สามารถติดตามข้อมูลดีๆและอัพเดทเทรนด์ใหม่ได้เสมอที่ Simplee Organic นะคะ
[…] ๆ รู้มั้ยคะว่าปัญหาริ้วรอยใต้ตา […]