สิวอักเสบทำให้เกิดรอยแดง บวม และเจ็บบนผิวหน้า มักเกิดขึ้นที่ใบหน้า หลัง หน้าอก และไหล่ และสาเหตุมาจากน้ำมันส่วนเกินนั่นเอง แต่ในบางครั้งเราก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมอยู่ดี ๆ สิวอักเสบจึงเกิดขึ้นบนผิว เกิดจากอะไร ? และรักษาอย่างไรให้หายเร็วที่สุด มีวิธีป้องกันหลีกเลี่ยงหรือไม่ ไปดูกันเลย!
สามารถเลือกอ่านเช็คลิสต์ที่สนใจได้เลย

สิวอักเสบคืออะไร?
สิวอักเสบเป็นภาวะผิวหนังที่ทำให้เกิดตุ่มแดง บวม และเจ็บ สิวเหล่านี้มีหนองหรือไขมันด้านใน เนื่องจากความมันส่วนเกินเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้บริเวณใบหน้า หลัง หน้าอก และไหล่
สิวอักเสบจะอยู่ลึกลงไปในผิวหนังและอักเสบและบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นสิวอักเสบจึงมักจะเจ็บหรือปวดทั้งที่สิวและบริเวณรอบ ๆ เสมอ

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ
- กินนม น้ำตาล และไขมันให้มาก
- อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูง
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมากเกินไปหรือไม่ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์
- บีบสิวเพื่อให้เกิดสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำซ้ำซาก
ประเภทของสิวอักเสบ ได้แก่:
- ตุ่มหนอง: ตุ่มนูนขึ้นบนผิวที่มีหนอง
- ก้อนเนื้อ: มีตุ่ม แข็งขนาดใหญ่ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง

ป้องกันสิวอักเสบอย่างไรดี ?
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า เพราะอาจทำให้พาน้ำมันและสิ่งสกปรกไปยังรูขุมขนบนใบหน้าได้
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มอยส์เจอไรเซอร์ และเมคอัพที่ปราศจากน้ำมัน ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว
- เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันถึงผิวผสม
- อย่าบีบสิวหัวขาว สิวหัวดำ เพราะอาจเกิดการอักเสบได้
- ทานอาหารเพื่อสุขภาพ เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและนมน้อยลง
- ล้างและให้ความชุ่มชื้นทุกเช้าและทุกคืน
- ไม่นอนแบบไม่ล้างหน้า
สิวอักเสบเป็นสิวที่ไม่มีหัวก็จริง แต่อาจเกิดเรื้อรังและทำให้เป็นสิวบริเวณกว้างได้ เนื่องจากสิวอักเสบเกิดจากการอักเสบ สิ่งสกปรก และทานอาหารประเภทไขมันมาก ทางที่ดีเพื่อลดการเกิดสิวอักเสบควรหลีกเลี่ยงการทำให้ใบหน้าสกปรก ทั้งการสัมผัส การขี้เกียจล้างหน้า และอื่น ๆ เพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียนและสุขภาพดีนะคะ ❤️