สาว ๆ วัย 30+ หลายคนต้องพบเจอกับปัญหาผิวต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะ ฝ้าและกระ ที่เมื่อยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งเห็นได้ชัด วันนี้ Simplee Organic จะมาเล่าให้ฟัง กับ 5 ความจริง เกี่ยวกับฝ้าและกระ เกิดจากอะไร? ลดได้จริงมั้ย? ไปดูกันเลย!
สามารถเลือกอ่านเช็คลิสต์ที่สนใจได้เลย
- 5 ความจริงของสกินแคร์ลด ฝ้า กระ ได้จริงหรือไม่ ?
- สกินแคร์ออร์แกนิคลด ฝ้า กระ ที่ Simplee Organic แนะนำ!
- สรุป
สรุ
5 ความจริงของสกินแคร์ลด ฝ้า กระ แก้ได้จริงไหม ?
สกินแคร์แก้ฝ้ากระ ราคาค่อนข้างที่จะสูงมากกว่าสกินแคร์ทั่วไปในท้องตลาด เพราะว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้เข้าไปล้ำลึกถึงชั้นผิวด้านในนั่นเองค่ะ แล้วแบบนี้สกินแคร์ที่เคลมว่า สามารถลดฝ้า กระ ได้จริง จะแก้ได้จริงหรือไม่ ? ควรค่าแก่การซื้อรึเปล่า ? ไปอ่านกันเลยค่ะ

1.ฝ้า และ กระ เกิดจากอะไร ?
ฝ้า หรือ ปื้นสีเข้มที่เกิดใต้ชั้นผิวหนัง ส่วน กระ เป็นจุดเล็ก ๆ กระจายตัวบริเวณใบหน้าและลำคอ ทั้งสองอย่างเกิดจากการที่ผิวหนังของเรามีเม็ดสีหรือเมลานินมากผิดปกติ โดยมากแล้วมี สาเหตุมาจากรังสียูวีจากแดดหรือ แสงจากหน้าจอคอม รวมไปถึงความเครียด และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่อเราอายุมากขึ้นนั่นเองค่ะ
2.ฝ้า และ กระ ป้องกันการเกิดได้จริงไหม ?
เราสามารถป้องกันการเกิดฝ้าและกระได้ โดยการหลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ ไม่ให้หน้าไหม้แดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า spf 30 ขึ้นไปค่ะ ควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้กระทั่งอยู่ในร่ม เพราะแสงจากจอสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ก็สามาถทำร้ายผิวเราได้เช่นกันค่ะ ทำให้เกิดปัญหาผิวฝ้ากระขึ้นได้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยค่ะสาว ๆ

3.อายุมากขึ้น เสี่ยงฝ้ากระมากขึ้นจริงไหม ?
จริงค่ะ เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะชะลอการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือ ฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งมีส่วนในการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังของเราเสื่อมโทรมลง และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ รวมไปถึงฝ้าและกระด้วยเช่นกัน ทำให้สังเกตได้ว่าสาว ๆ ที่อายุ 30 - 40 ปีขึ้นไป มักจะเจอกับปัญหาฝ้าและกระกันมากพอสมควรค่ะ

4.ฝ้า กระ มีกี่แบบ ?
ฝ้าและกระ มีหลายแบบซึ่งมีระดับความเข้มแตกต่างกัน และเกิดจากสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน โดยแบ่งออกหลัก ๆ เป็น 3 แบบค่ะ
ฝ้า
จะมีสาเหตุมาจากการที่ผิวถูกทำร้ายจาก รังสียูวี มีโอากาสเกิดขึ้นมากขึ้นหากไม่ได้ทาครีมกันแดดปกป้องผิวค่ะ สาเหตุเกิดจากการได้รับแสงรังสียูวีจากทั้งแสงแดด นอกจากนี้ยังอาจเกิดจาก HEVIS (High Energy Visible Light) ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากแสงไฟ แสงจากโทรศัพท์ แสงจากคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกันค่ะ
1.ฝ้าลึก
ฝ้าประเภทนี้มักเกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังแท้ที่อยู่ใต้หนังกำพร้า และส่วนใหญ่จะมีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา สีเทาอมฟ้า และมีขอบเขตของฝ้าที่ไม่ชัดเจนค่ะ โดยส่วนมากเราจะสังเกตได้ว่าเราเป็นฝ้าชนิดนี้ ตรงที่ฝ้าลึกจะกลืนไปกับผิวหน้าของเรา และฝ้าจะขยายตัวเป็นบริเวณกว้างนั่นเองค่ะ
2.ฝ้าตื้น
ฝ้าตื้นมักจะเกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังกำพร้าเป็นส่วนใหญ่ และจะมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีเทาดำ ส่วนขอบเขตของฝ้าตื้นเราจะสังเกตเห็นขอบเขตของฝ้าได้ชัดเจนกว่าฝ้าลึก
3.ฝ้าผสม
ลักษณะของฝ้าผสมก็สังเกตได้ง่ายๆคือจะมีทั้งฝ้าลึก และ ฝ้าตื้น ที่เราสามารถดูได้จากลักษณะของฝ้าแต่ละประเภทจากข้อด้านบน ฝ้าประเภทนี้มักเกิดจากการโดนทำร้ายสะสม และไม่มีเกราะปกป้องผิวอยู่สม่ำเสมอ
4.ฝ้าฮอร์โมน
ฝ้าประเภทนี้มักจะเกิดขึ้นได้ตอนตั้งครรภ์ , ทานยาคุม , ช่วงมีประจำเดือน เพราะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนกระทันหัน ทำให้เกิดเป็นฝ้าเกิดขึ้น
(แต่ฝ้าตอนตั้งครรภ์มักจะหายหรือจางลงไปเองหลังคลอดบุตร ไม่ต้องห่วงค่ะ ^^)
5.ฝ้าแดด
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าฝ้าประเภทนี้เกิดจากแสงแดดโดยตรง หรือหน้าไหม้แดดจากการโดนรังสี UVA ทำร้ายผิวหน้า เพราะรังสี UVA มีความยาวของคลื่นมากกว่าทำให้ส่งผลต่อชั้นผิวได้ลึกกว่า ร้ายแรงกว่านั่งเองค่ะ ซึ่งทำให้เกิดฝ้าและกระได้ง่าย ส่วนของชัดของฝ้าก็ขึ้นอยู่กับการผลิตเม็ดสีของผิว ยิ่งโดนแดดนานการผลิตเม็ดสีก็ยิ่งชัดและเยอะกว่า การปกป้องผิวที่ดีคือเลี่ยงการโดนแดด และทาครีมกันแดดเสมอ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไปและมีค่า PA 2+ ขึ้นไป
6.ฝ้าจากการแพ้เครื่องสำอาง
การที่ผิวแพ้เครื่องสำอางจะทำให้เกิดผื่นแดง หรือ ตุ่มเล็กเป็นวงกว้างหรือการอักเสบของรูขุมขน พออาการแพ้หายไปจะทิ้งรอยดำเอาไว้ทำให้ดูเหมือนฝ้าได้ วิธีป้องกันเบื้องต้น คือหยุดการใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เพื่อป้องกันการลุกลามและการเกิดซ้ำค่ะ
- กระ
มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ มักพบบริเวณที่สัมผัสแดดมาก เช่น โหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง หรือจมูก กระตื้น เกิดจากเซลล์เม็ดสีใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ
โดยสาเหตุที่เซลล์เม็ดสีทำงานผิดปกตินั้นส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม ที่ทำให้เซลล์เม็ดสีมีความไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ ทำให้มีกระตั้งแต่ไวเด็ก ประกอบกับการสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำโดยไม่มีการป้องกันอย่างเหมาะสม ก็มีโอกาสทำให้กระเข้มขึ้น เพิ่มจำนวนมากขึ้น และขยายใหญ่ขึ้นด้วยนะคะ
5.สกินแคร์อะไรช่วยลด ฝ้า กระ
สำหรับสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยลดฝ้าและกระที่มาจากธรรมชาติ เราขอแนะนำให้ใช้ว่านหางจระเข้ หรืออโลเวร่าเจล พอกผิวหน้าสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ที่นอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวแล้ว ยังช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีในแดดที่ทำร้ายผิวและก่อให้เกิดฝ้าและกระด้วยนั่นเองค่ะ
ปัญหาฝ้ากระ ที่เกิดจากแดด เมื่อเป็นแล้วแล้วสามารถทำให้ลดลง หรือจางลงได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสหรือรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำค่ะ
สกินแคร์ลดฝ้า กระ ฉบับออร์แกนิค อัปเดต 2021

1.Plantnery Grape Seed Serum
ปริมาณ 30 ml. ราคา 249.-
Plantnery Grape Seed Serum 30ml เซรั่มบำรุงผิว อุดมด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำ พร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส
• ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ยับยั้งการสร้างเม็ดสี สกัดการส่งออกเม็ดสี
• ซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
• ช่วยปรับสภาพผิว ให้มีความสมดุล
• ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน ซิลิโคน และสี

2.Plantnery Grape Seed Sleeping Mask
ปริมาณ 50 g. ราคา 249.-
Plantnery Grape Seed Sleeping Mask 50g สลีปปิ้งมาสก์ อุดมด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเข้มข้น ช่วยลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำ พร้อมฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส และคืนความเนียนกระชับ ทำให้ผิวเต่งตึง
• ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ยับยั้งการสร้างเม็ดสี สกัดการส่งออกเม็ดสี
• ซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่
• ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ฝ้ากระจางลง
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
• ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน ซิลิโคน และสี

3.MARY & MAY Citrus Unshiu Fruit + Tremella Fuciformis Serum
ปริมาณ 30 ml. ราคา 420.-
MARY & MAY Citrus Unshiu Fruit + Tremella Fuciformis Serum 30ml เซรั่มบำรุงผิวหน้า อุดมไปด้วยวิตามินซีโพลีฟีนอล ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ เพื่อผิวแลดูกระจ่างใสเรียบเนียน
• อุดมไปด้วยวิตามินซีโพลีฟีนอลซึ่งช่วยปรับสีผิว และขจัดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
• ส่วนประกอบที่มีอยู่ในสารสกัด Citrus Unshiu Fruit และส่วนประกอบของฟลาโวนอยด์ที่เรียกว่าเฮสเพอริดิน มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม
• สารสกัด Tremella fuciformis มีคุณค่าทางโภชนาการและคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น เพื่อให้ผิวเปล่งปลั่งสดใสและยืดหยุ่น
สรุป
สกินแคร์ที่มีคุณสมบัติช่วยลด ฝ้า กระ สามารถช่วยลดได้จริงค่ะ
แต่จะเป็นขั้นตอนในการช่วยให้รอยฝ้า และ กระ ค่อย ๆ จางลงนะคะ อาจใช้ระยะเวลา 3 - 6 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความสม่พเสมอในการดูแลผิวของแต่ละคนค่ะ
และที่สำคัญเลยนั่นก็คือ เมื่อบำรุงดีแล้วก็อย่าลืมปกป้องผิวจากการทำให้ ฝ้า และ กระ เพิ่มขึ้นด้วยนะคะ ด้วยวิธีการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการให้ผิวหน้าโดนแดดเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ผิวเรา ห่างไกลจากฝ้า กระ ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ^^
เป็นยังไงกันบ้างคะสาว ๆ กับบทความ " 5 ความจริงของสกินแคร์ลด ฝ้า กระ แก้ได้จริงไหม ? " บอกเลยว่าสาว ๆ ก็สามารถ รู้ก่อน! แก้ก่อน ป้องกันการเกิดฝ้าและกระได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้ง่ายนิดเดียว แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เราก็จะได้สวยต่อไปอีกยาวนานหลายปีเลยค่ะ
ถาม-ตอบ
ฝ้าและกระ มีหลายแบบซึ่งมีระดับความเข้มแตกต่างกัน และเกิดจากสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน โดยแบ่งออกหลัก ๆ เป็น 7 แบบค่ะ
1.ฝ้าลึก
2.ฝ้าตื้น
3.ฝ้าผสม
4.ฝ้าฮอร์โมน
5.ฝ้าแดด
6.ฝ้าจากการแพ้เครื่องสำอาง
7.กระ
มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ เกิดจากเซลล์เม็ดสีใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ
ฝ้า หรือ ปื้นสีเข้มที่เกิดใต้ชั้นผิวหนัง ส่วน กระ เป็นจุดเล็ก ๆ กระจายตัวบริเวณใบหน้าและลำคอ ทั้งสองอย่างเกิดจากการที่ผิวหนังของเรามีเม็ดสีหรือเมลานินมากผิดปกติ โดยมากแล้วมี สาเหตุมาจากรังสียูวีจากแดดหรือ แสงจากหน้าจอคอม รวมไปถึงความเครียด และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่อเราอายุมากขึ้นนั่นเองค่ะ