
รู้หรือไม่! เราสามารถทำโลชั่นทาผิวเองได้ มาทำความรู้จักและวิธีทำ 'Whipped Body Butter' กัน
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ก็จะใกล้เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์แล้วใช่มั้ยคะ เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนตอนนี้ก็คงบำรุงผิวให้เตรียมพร้อมกับการไปถ่ายรูปที่ทะเลสวย ๆ กันใช่มั้ยคะ
วันนี้แอดเลยมีวิธีทำ Whipped Body Butter ที่เหมาะกับสาว ๆ ผิวแห้ง และเป็นครีมทาตัวหอมที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัวหอมไปทั้งวันเลยค่ะ มาเริ่มทำความรู้จักกันดีกว่าค่ะว่าเจ้าครีมตัวนี้มันคืออะไรกันแน่
Whipped Body Butter คืออะไร
เป็นครีมทาผิวเนื้อวิปครีม และเป็นครีมออร์แกนิคทาผิวที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ โดยใช้ส่วนผสมแบบอร์แกนิค ที่เป็นมิตรต่อผิวและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นครีมทาตัวหอมที่ทาแล้วให้ความชุ่มชื้นกับผิว เนียนเปล่งประกาย เหมาะสำหรับสาว ๆ ผิวแห้งที่ผิวขาดความชุ่มชื้น สาว ๆ คนไหนผิวแห้งต้องไปลองทำดูนะคะ!
วัตถุดิบที่ต้องใช้
1.เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) สมุนไพรชนิดพิเศษที่ให้วิตามิน A, D, E, F, โปรตีนและใยอาหาร สามารถเข้าดูแลถึงชั้นผิวในสุด ช่วยฟื้นฟูผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง และช่วยลบรอยเหี่ยวย่น
2.น้ำมันโฮโฮบา
3.น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin) หรือน้ำมันมะพร้าวก็ได้
4.วิตามินอีออยล์ (Vitamin E Oil)
5.น้ำมันเบาบับ (Baobab Oil) เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเย็น (cold-press) เมล็ดของผลเบาบับ ซึ่งให้น้ำมันที่มีกลิ่นอ่อนๆจากผลเบาบับ
6.น้ำมันละหุ่ง
7.น้ำมันหอมระเหย (essential oil) กลิ่นที่ต้องการ
วิธีทำ Whipped Body Butter
1.นำเชียร์บัตเตอร์มาหันบางเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ละลายง่าย
2.ละลายเชียร์บัตเตอร์ด้วยการใส่น้ำร้อนไว้ที่ภาชนะด้านล่างแล้วคนช้า ๆ จนกว่าจะละลาย ไม่แนะนำให้ใช้ไวโครเวฟละลายนะคะ
3.เทส่วนผสมของน้ำมันอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ สามารถใส่น้ำมันมะพร้าวจำนวนมากเพิ่มได้นะคะ
4.ใส่น้ำมันหอมละเหยลงไป โดยเพื่อน ๆ สามารถเลือกกลิ่นอะไรก็ได้ ส่วนแอดชอบกลิ่นลาเวนเดอร์ก็จะใส่กลิ่นนี้ค่ะ เพราะกลิ่นนี้ทาแล้วทำให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
5.ปั่นส่วนผสมทั้งหมดด้วยเครื่องตีวิปครีม โดยปั่นจนกว่าเนื้อจะขึ้นเป็นวิปครีม
6.นำวิปครีมใส่ลงภาชนะที่ต้องการ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ
หวังว่าสาว ๆ ที่มีผิวแห้งและต้องการครีมทาผิวที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ลองใช้ดูนะคะ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้เนี่ยก็มีแต่ของออร์แกนิคทั้งนั้น ขอบอกเลยว่าดีต่อผิวและไม่แพ้อย่างแน่นอนค่ะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ
แหล่งข้อมูล: https://www.youtube.com/watch?v=kNnoJzWlnP0&list=LL&index=9